อย่าเพิ่งเลิกทำการตลาดออฟไลน์ ให้อ่านบทความนี้ก่อน ถึงแม้เราจะอยู่ในยุคดิจิทัลล้ำหน้า! ใคร ๆ ก็ว่า "สื่อออฟไลน์ตายแล้ว" ทิ้งไปเถอะ! รอก่อน! แท้ที่จริงแล้วสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ได้โรยราไปไหน แค่อัพเกรดการตลาดของเราให้เป็น "มาร์เก็ตติ้งไฮบริด" ผสานพลังกับดิจิทัลอย่างชาญฉลาด ยอดขายปังแน่นอนค่ะ บทความนี้ เนะจะแนะนำ 7 กลยุทธ์ลับประสาน 2 โลก ปลุกแบรนด์ของคุณให้โดดเด่น เหนือคู่แข่ง พร้อมตัวอย่างจาก 2 แบรนด์ที่ทำการตลาดแบบ Hybrid มาสร้างความเข้าใจให้แก่เรามากขึ้น
เคล็ดลับข้อ 1: รู้เขารู้เรา ร้อยรากฐาน: เลือกช่องทางโดนใจ!
1.1 เข้าใจกลุ่มเป้าหมายก่อนว่าชอบแบบไหน
เรายังมีผู้บริโภคยุคอนาลอค หรือ เซมิดิจิทัลอยู่ การใช้สื่อออฟไลน์มีส่วนช่วยการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายแบบนี้
Nike แบรนด์รองเท้ากีฬาระดับโลก เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายหลักคือคนรุ่นใหม่ที่ชอบออกกำลังกาย จึงใช้สื่อดิจิทัล เช่น โฆษณาบนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ขณะที่ ร้าน Starbucks แบรนด์กาแฟชื่อดัง เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายหลักคือคนทุกเพศทุกวัย จึงใช้สื่อดิจิทัล เช่น การโฆษณาบนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ ควบคู่ไปกับสื่อสิ่งพิมพ์ออฟไลน์ เช่น การแจกถ้วยน้ำและถุงผ้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม
1.2 กำหนดเป้าหมายแต่ละแคมเปญ ค่อยเลือกสื่อที่ใช้
ถ้ากลุ่มเป้าหมายชัด แต่ละกลุ่มเป้าหมายก็ต้องการสื่อที่ต่างกัน
ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทย กำหนดเป้าหมายแคมเปญที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ จึงใช้สื่อดิจิทัล เช่น การโฆษณาบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ควบคู่ไปกับสื่อสิ่งพิมพ์ออฟไลน์ เช่น บิลบอร์ด หรือ โบรชัวร์
เคล็ดลับข้อ 2 สื่อสิ่งพิมพ์ดึงดูดสายตาได้ดีอยู่!
ท่ามกลางความวุ่นวาย ฉูดฉาดของโลกออนไลน์ ลูกค้ายังชอบพักสายตาดูสื่อออฟไลน์ และรู้สึกว่าน่าสนใจ
Nike แบรนด์รองเท้ากีฬาระดับโลก ใช้สื่อออฟไลน์ เช่น บิลบอร์ด เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอลเลกชันรองเท้า Air Max ใหม่ ๆ พร้อม QR code พาไปดูวิดีโอรีวิวบนเว็บไซต์
Starbucks แบรนด์กาแฟชื่อดัง ใช้สื่อออฟไลน์ เช่น แก้วกาแฟและแก้วน้ำ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกโปรแกรม Starbucks Rewards โดย QR code บนแก้วกาแฟสามารถพาไปสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์
เคล็ดลับข้อ 3 รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพได้พร้อมกัน แค่หาจุดลงตัวให้เจอ!
สื่อผสมผสานแบบไฮบริดเพิ่มพลังการสื่อสารได้มากขึ้น ให้ใช้จุดเด่นของแต่ละสื่อให้เป็นประโยชน์
Nike ใช้สื่อดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดีย เพื่อปล่อยโปรโมชั่นฉับไว เช่น โปรโมชั่นลดราคารองเท้ารุ่นใหม่ ๆ
ธนาคารไทยพาณิชย์ ใช้สื่อสิ่งพิมพ์ออฟไลน์ เช่น ใบปลิวและหนังสือพิมพ์ เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน SCB Easy ที่รองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน
เคล็ดลับข้อ 4 พิมพ์แบบดิจิทัล (Digital Print) ถือเป็นอาวุธลับเพราะต้นทุนต่ำ!
Nike ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิทัล เพื่อผลิตโบรชัวร์ที่มีคุณภาพสูง ตอบสนองไว และพิมพ์ตามสั่งได้
Starbucks ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิทัล เพื่อผลิตแก้วกาแฟและแก้วน้ำที่มีดีไซน์ทันสมัย
เคล็ดลับข้อ 5 ข้อมูลคือทองคำ จะทำให้เราเล็งเป้าแม่นยำขึ้น!
การทำการตลาดปัจจุบันต้องนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจให้มากที่สุด รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าได้มากขึ้นด้วย
Nike เก็บรวบรวมข้อมูลประชากรเป้าหมายอย่างละเอียด เช่น อายุ เพศ ความสนใจ เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมาย
ธนาคารไทยพาณิชย์ เก็บรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ช่องทางที่ลูกค้าใช้บ่อยที่สุด เพื่อเลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสม
เคล็ดลับข้อ 6 ลองคำณวนความคุ้มค่า (Return of Investment) ในแต่ละสื่อ!
เคล็ดลับสำคัญช่วยการตัดสินใจคือการคำณวนค่า ROI = ผลตอบแทนหรือยอดขายที่ได้ / การลงทุนในสื่อแต่ละอย่าง ยิ่งค่ามากเท่าไหร่ ยิ่งคุ้มมากเท่านั้น
Nike พบว่าสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น โบรชัวร์และนิตยสาร สามารถสร้าง ROI ที่สูงกว่าสื่อดิจิทัล เช่น โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย เนื่องจากสื่อสิ่งพิมพ์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว เช่นเดียวกับ ธนาคารไทยพาณิชย์เองก็พบว่า สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น ใบปลิวและหนังสือพิมพ์ มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกแอปพลิเคชัน SCB Easy มากกว่าสื่อดิจิทัล เช่น โฆษณาบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย
เคล็ดลับข้อ 7 VR/AR เสริมพลัง ไม่ใช่ทดแทน!
ในยุค Marketing 6.0 ที่กำลังเข้าสู่ Immersive Experience คือ เอาตัวเราเข้าไปในโลกดิจิทัลประสานกับกายภาพ ความจริงเสมือน และความจริงเสริม (Virtual / Augmented Reality) เข้ามามีบทบาท แต่ไม่ใช่แทนได้ทั้งหมด นักการตลาดสามารถเริ่มใช้ VR/AR ร่วมกับสื่อดิจิทัลและสื่อออฟไลน์ที่มีอยู่
Nike เริ่มใช้เทคโนโลยี VR/AR เพื่อสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมกับลูกค้า เช่น เมนูอินเตอร์แอคทีฟบนเว็บไซต์และดิสเพลย์เสมือนจริงในร้าน ขณะที่ร้านกาแฟ Starbucks ใช้เทคโนโลยี VR/AR เพื่อสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟที่สมจริงยิ่งขึ้น เช่น เกมเสมือนจริงที่ให้ลูกค้าได้ทดลองทำกาแฟด้วยตัวเอง
จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่าแบรนด์ต่าง ๆ ประสบความสำเร็จจากการใช้การตลาดแบบไฮบริด โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น กลุ่มเป้าหมาย เป้าหมายแคมเปญ และงบประมาณ เพื่อสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมาย