จากการระบาดของไวรัส COVID-19 เร่งเร้าให้โลกดิจิทัลพัฒนาแพลตฟอร์มนวัตกรรมใหม่ Metaverse เปิดตัวใน ปี ค.ศ. 2021 เพื่อเป็นเครือข่ายของโลกเสมือนจริง 3 มิติที่เชื่อมต่อทางสังคมเข้าด้วยกัน จากการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด รวมทั้งความเป็นจริงเสริม (AR) และความเป็นจริงเสมือน (VR) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมจริงทำให้เกิด New Touchpoint ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในช่องทางใหม่
Metaverse Marketing โลกใบใหม่ของนักการตลาดค่าตัวแพง
นั่นคือ ผู้บริโภคยุคใหม่ คือ Generation Z (เด็กที่เกิดระหว่างปี คศ.1995-2009) และ Alpha (เด็กที่เกิดระหว่างปี คศ.2010-2024) กำลังเข้าสู่สื่อสังคมที่อยู่ในรูปแบบ Virtual Reality ทำให้สร้างประสบการณ์เชื่อมต่อแบบ Immersive experience ทำให้เกิดโอกาสทางการตลาดในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ในรูปแบบใหม่ ที่สัมผัสแบรนด์ได้มากขึ้น จนเกิดเป็นรายได้ทางใหม่ขึ้นมานักการตลาดต้องปฏิรูปตัวเอง ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2007 ที่ iPhone เปลี่ยนโฉมให้เราก้าวสู่ยุค Web 2.0 ที่เทคโนโลยีดิจิทัลก้าวเป็นโลกใบใหญ่ของการสื่อสาร ปี ค.ศ. 2022 จะเป็นปีที่เราก้าวสู่ยุค Web 3.0 อีกครั้งที่เทคโนโลยีดิจิทัลแบบ 3D (3มิติ) และ Immersive (ทุกทิศทาง) จะทำให้กลายเป็นโลกใบใหม่ของการใช้ชีวิต นักการตลาดต้องยกระดับเข้าสู่ E-Marketer อย่างเต็มตัว
เริ่มทำ Metaverse Marketing กันเถอะ
ดังนั้น นักการตลาดสามารถริเริ่ม Metaverse Marketing ได้หลายรูปแบบ ได้แก่
1. ทำตลาดแบบร่วมมือกับ Metaverse Brand
Metaverse Marketing ในช่วงเริ่มต้นต้องอาศัยการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในโลกเสมือนอย่างบรรดาเกมต่างๆ แนะนำให้ลองมองหาแบรนด์ที่อยู่ใน Metaverse มาก่อนแล้ว เช่น บรรดาเกมออนไลน์ หรือ Facebook working horizon และไปร่วมมือ (x) กับแบรนด์เหล่านั้นกันเถอะ
นักการตลาดสามารถทำการตลาดในโลกเสมือนของ Metaverse คู่ขนานไปกับการตลาดในโลกจริงหรือออนไลน์ได้ ตัวอย่าง การร่วมมือกันของ Balenciaga x Fortnite ผู้เล่นสามารถซื้อเสื้อผ้าดิจิทัลสำหรับอวาตาร์ได้จากร้านเสมือนจริง Balenciaga นอกจากนี้ ในโลกออฟไลน์มีการผลิตซีรี่ส์ Fortnite x Balenciaga วางจำหน่ายในร้าน Balenciaga บางแห่งและบนเว็บไซต์ของพวกเขาด้วย ถ้าผู้บริโภคซื้อเครื่องแต่งกายในชีวิตจริง สามารถนำไปปลดล็อกเสื้อผ้า Balenciaga Metaverse ใน Fortnite ได้ด้วย
2. สร้าง Immersive Marketing Campaign
สร้างประสบการณ์การเข้าสู่โลกเสมือนร่วมกับแคมเปญการตลาด เช่น การนำเสนอ Metaverse Experience ด้วย AR หรือ VR ที่บูธ หรือ ป้ายโฆษณา การออกแแบบการโต้ตอบกับโฆษณาในรูปแบบเกมส์ หรือ นำ VR มาใช้ใน product test เพื่อให้เกิดความรู้สึกว๊าวไปกับแบรนด์ และทำให้แบรนด์เกิดประสบการณ์การทำ Metaverse Marketing ถือว่าเป็นการผลักทั้งผู้บริโภคและนักการตลาดของแบรนด์ให้ออกไปนอก Comfort zone เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของการตลาดดิจิทัล
ตัวอย่างบูธของ VISA ที่นำ AR มาใช้ ตามวิดีโอด้านล่าง
ตัวอย่างการทำ VR มาทดสอบการแต่งร้านใหม่ของ Retail ตามวิดีโอด้านล่าง
3. เริ่มสร้าง Digital Identity
อนาคตของ Metaverse ทำให้ผู้บริโภคมีตัวตนเสมือนจริงแบบอวาตาร์ แบรนด์ก็เช่นกันจำเป็นต้องเริ่มสร้างตัวตนบน Metaverse ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน Brand Avatar ในรูปแบบตัวแทนของแบรนด์เหมือน บาร์บีกอนของบาร์บีคิวพลาซ่า และพนักงานในร้าน รวมถึง Brand Virtual Ambassador ที่อาจเป็นดาราที่ปั้นขึ้นเพื่อสนับสนุนแบรนด์ เช่น Venus แบรนด์มีดโกนสำหรับผู้หญิงของ Procter & Gamble ได้สร้างอวาตาร์ที่มีผิวแบบต่างๆ ใน Animal Crossing
ถ้าเราเป็นแบรนด์เสื้อผ้า เครื่องประดับ คุณสามารถขายได้จริงบน Metaverse แล้ว เฉกเช่นเดียวกับ Prada ได้ร่วมมือกับ Riders Republic เพื่อออกแบบชุดเสมือนจริง อุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์กีฬาบนหิมะที่ผู้เล่นสามารถซื้อเพื่อใช้เป็นอวาตาร์ได้ หรือ Gucci ขายกระเป๋าดิจิทัลบน Roblox ในราคา $4,000 ไปแล้ว
ตัวอย่าง Prada x Riders Republic บนโลกเสมือนดังวิดีโอด้านล่าง
4. สร้าง Digital Space ของแบรนด์
ลองสร้างพื้นที่เสมือนของแบรนด์ไว้ประชุมหรือทำงานร่วมกัน และเปิดให้ลูกค้าเข้าชม เพื่อสร้างประสบการณ์กับแบรนด์บนโลกใหม่ ลูกค้าสามารถเยี่ยมชม ทดลองใช้ และเข้าร่วมในพื้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ 3 มิติแบบตอบสนองได้ของแบรนด์
เราได้เห็นข่าวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปิดตัววิทยาเขตบน Metaverse /แบรนด์ Gucci ไปสร้าง Gucci Garden ในเกม ROBLOX/ ธนาคารไปเปิดสำนักงานใหญ่แบบ Sandbox ในโลก Metaverse
วิดีโอคลิปแคมปัสที่ 5 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บน Metaverse
5. ทำของสะสมดิจิทัล (Digital Collectables)
แบรนด์สามารถออกแบบของที่ระลึกดิจิทัลไว้สะสมโดยให้สิทธิผ่าน NFTs หรือ non-fungible tokens สถาบันการเงิน Morgan Stanley ทำนายไว้ว่า NFTs จะกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่ากว่า 5 หมืนล้านดอลล่าร์ในปี ค.ศ. 2030 ทำให้สินค้าสะสมที่ส่งผ่าน NFTs จะมีมูลค่าและกลายเป็นสินค้าธุรกิจได้ เช่น แบรนด์ Longines ผู้ผลิตนาฬิกาสุดหรูได้ทำนาฬิกาที่มี NFT รุ่นลิมิเต็ด 45 รายการ Burberry แบรนด์เนมสัญชาติอังกฤษสลัดภาพลักษณ์หรูหราเก่าแก่ดั้งเดิม ร่วมมือกับ Tmall เปิดขายผ้าพันคอรุ่นพิเศษลิมิเต็ด 1,000 รายการที่มาพร้อมกับกวาง Interactive NFT และไปร่วมมือกับ Block Party ของ Blanko ซึ่งเป็นเกมแบบเปิดกว้างที่มีผู้เล่นหลายคนซึ่งผู้เล่นสามารถรวบรวม อัปเกรด และขายของเล่นดิจิทัลได้ เพื่อเปิดขายของเล่นไวนิล NFT รูปฉลาม และเสื้อผ้าดิจิทัลตัวแรกใน
อยากให้นักการตลาดเริ่มทำความคุ้นเคยกับ Metaverse Marketing เสียตั้งแต่ตอนนี้ ณ ตรงที่ Metaverse เพิ่งเริ่มต้น เราจะสามารถเท่าทันการเปลี่ยนแปลงและพลิกผันให้ Metaverse Marketing เป็นโฉมหน้ารายได้ใหม่ทางการตลาด ยกระดับทักษะนักการตลาดเมตาเวอร์ส อันเป็นที่ต้องการในวงการธุรกิจ
Metaverse Marketer ค่าตัวเดือนละล้านเอง
เนะมีตัวอย่างตำแหน่งงานที่เปิดรับกันอยู่ตอนนี้ให้พวกเราดูกัน เงินเดือนระดับล้านบาทกันทีเดียว ประกอบด้วย
1. Metaverse ecosystem manager อาจมีตำแหน่งย่อยอย่าง Metaverse developer
Metaverse architect หรือ 3D artist or design specialist เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ $88,000 หรือเดือนละ 2.5 ล้านไทย
2. Metaverse community manager เป็นตำแหน่งสร้างชุมชนใน Metaverse เงินเดือนเฉลี่ย $58,000 หรือ เดือนละ 2 ล้านบาทไทย
3. Metaverse storyteller เป็นตำแหน่งการสร้างคอนเทนต์ใน Metaverse เงินเดือนเฉลี่ย 48,000 ถึง $75,000 ก็เดือนละ ล้านถึง 2 ล้านนั่นเอง
เห็นค่าตัวกันแบบนี้แล้ว แหมเท่ากับเงินเดือนเราตอนนี้ทั้งปีเลยนะคะ ดังนั้น อย่าพลาดทักษะนี้นะคะ Metaverse Marketing เพื่อก้าวสู่นักการตลาดค่าตัวหลักล้านกัน
ชอบใจ หรือมีข้อคิดเห็นอย่างไร คอมเมนต์ทิ้งไว้ได้ค่ะ ที่สำคัญห้ามลืมกดติดตาม อ.เนะไว้ทุกช่องทางนะคะ
ช่องทาง Blog สำหรับข้อเขียน www.anothaimarketing.com
ช่องทาง Facebook สำหรับแง่คิดสั้นๆ ดีๆ www.facebook.com/anothaimarketing
ข่องทาง YouTube สำหรับคลิปวิดีโอ www.youtube.com/anothaimarketing
LINE OA สำหรับแจ้งเตือนเนื้อหาใหม่ และแลกเปลี่ยนคลิปการสอน